ปัญหาของคนเลี้ยงแมวคือ ทำยังไงที่จะแก้กลิ่นเหม็นสาบบนที่นอนแมวได้ เพราะบางทีกลิ่นเหม็นบนที่นอนเจ้าเหมียวไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าเขาฉี่หรืออึใส่หรอกนะ

เพียงแต่แค่เขาไปเล่นซุกซน มุดถังขยะ จนการเลียทำความสะอาดขนตัวเองแล้วก็ยังไม่สะอาดพอมานอนบนที่นอนแบบผ้านวมหรือฟูกซึ่งเก็บกลิ่น(เหม็น)อย่างดี นานไปกลิ่นสาบเริ่มโชย มาให้กวนใจทาสแมวแล้ว

แก้ด้วยวิธีง่าย ๆ ไม่ต้องใช้น้ำยาหรืออุปกรณ์อะไรให้วุ่นวาย “น้ำอุ่น” ฆ่าเชื้อก่อนช่วยได้แน่นอน

เชื้อโรคเกาะติดหนึบชัวร์ ๆ อยู่แล้วตามปกติไม่ควรทำความสะอาดที่นอนน้องเหมียวจนกลิ่นสาบโชยแรง เอ๊ะ เป็นเช่นไร? ถ้าใครเคยใช้วิธีฉีดน้ำหอมพรม ๆ กะจะให้ที่นอนแมวหอมๆ แต่คุณพลาดอย่างแรงแล้วล่ะ เพราะน้ำหอมไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นเลยสักนิดจ้า

เราขอแนะนำวิธีที่ง่ายสุดคือ… ใช้น้ำอุ่นล้างคราบเฉพาะที่ก่อน เน้นนะคะ! ล้างเฉพาะที่โดยสังเกตว่าจุดไหนดูสกปรกที่สุดให้ใช้น้ำอุ่นเช็ดคราบตรงนั้นก่อนเลย แต่อย่าแช่ทั้งเบาะเด็ดขาด!เดี๋ยวกลิ่นและคราบสกปรกจะลามไปทั้งเบาะ คราวนี้ล่ะก็ งานเข้าของจริง!

น้ำส้มสายชูช่วยได้

เชื่อว่าทาสแมวคงไม่อยากใช้สารเคมีกับที่นอนเจ้านายแน่ๆ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายสุขภาพขน เจ้าเหมียว แนะนำวิธียอดฮิตทำความสะอาดที่นอนน้องแมวที่ได้ผลคือ ..การใช้การน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอุ่น เคล็ดลับคือ.. ผสมใส่ขวดสเปย์แล้วฉีดพรมบนที่นอนเหมือนฉีดน้ำหอมลงเสื้อผ้าเราเลยอ่ะ ใครที่สงสัยว่าทำไมต้องน้ำส้มสายชู จะเฉลยให้ค่ะ เพราะน้ำส้มสายชูมีกรด ที่มีฤทธิ์ทำความสะอาดได้ดี

โรยผงฟู

ตัวช่วยดีๆ มีอีก “ผงฟู” ที่ใช้ทำขนมนั่นเลยใช้เป็นตัวดับกลิ่นได้ดี เพราะโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นสารทำความสะอาดแบบเดียวกับน้ำยาดับกลิ่น เมื่อนำมาใช้โรยบนที่นอนน้องแมว สามารถดับกลิ่นเหม็นได้ดีเชียวล่ะ

ได้เวลามาทำความสะอาดจริงจังกันแล้วเพราะเรื่องกลิ่นเหม็นๆ ปล่อยไว้นานไม่ได้เลยล่ะเพราะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอย่างดี แถมยังทำให้พากันเครียดทั้งทาสทั้งนายกันเลยทีเดียว! และอย่าลืม! แก้ที่ตัวต้นเหตุด้วยล่ะ คือกลิ่นที่มาจากตัวเจ้านายด้วยนะคะ เพราะถ้าเบาะสะอาดแล้วแต่ตัวน้องเหมียวยังเหม็นหึ่งล่ะก็ งานเข้าล่ะซิ ทาสหัวหมุนแน่ๆ ล่ะงานนี้ ฮ่าฮ่า